Ads Top

Apple เปิดให้อัพเดท iOS 10 ได้แล้วทั้ง iPhone, iPad, iPod Touch


Advertising
ในที่สุด Apple ก็ได้ปล่อย iOS 10 มาให้อัพเดทกันอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา เรามาดูกันว่่ารายละเอียดมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง



iOS 10 – มีอะไรใหม่บ้าง

1. หน้า Lockscreen & Notification


  • ปรับปรุงหน้า Locksceen แบบใหม่
  • ปรับหน้า notification ใหม่ ให้ดูสะอาดขึ้น, เคลียร์การแจ้งเตือนทั้งหมดได้
  • Control center ปรับปรุงให้มีลูกเล่นเพิ่มขึ้น
  • มี Widget  แสดงสภาพอากาศและข้อมูลอื่นๆ หน้า
  • Notification Center รองรับการใช้งานร่วมกับ 3D Touch หน้า Lockscreen ได้ เช่นการกด 3D Touch เพื่อพรีวิวหรือตอบ Quick Reply ของ iMessage
  • เปลี่ยน Slide to unlock เป็น Press home to open


2. เปิดให้นักพัฒนาเข้าถึง Siri



  • Siri เปิดกว้างให้นักพัฒนามากขึ้น
  • ฉลาดมากขึ้น
  • สามารถสั่งให้ส่งข้อความผ่านแอปแชทอื่นๆ เช่น WhatsApp, WeChat ได้
  • สั่งให้จองรถแท็กซี่อย่าง Uber ได้
  • ภาพรวมแล้ว Siri สามารถรับคำสั่งที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น


3. QuickType ระบบเดาคำที่ฉลาดยิ่งขึ้น


คาดเดาการพิมพ์
พิมพ์ได้เร็วขึ้น คำที่คาดเดานั้นยาวขึ้น
ฉลาดมากกว่าเดิมว่าเราจะตอบอะไร เช่น ถามว่าอยู่ไหนระบบเดาคำก็จะเสนอตำแหน่งพิกัดปัจจุบันมาให้ทันที

4.Photos การจัดการรูปภาพอัจฉริยะ


มีการเพิ่มการทำงานของการวิเคราะห์รูปภาพเพื่อนำมาแสดงในการค้นหา ทั้งโดย Spotlight และ Siri แล้วก็ยังมีฟีเจอร์ใหม่คือจะมีการรวบรวมรูปภาพ ที่น่าจะมีคุณค่าในทางจิตใจมาเตือนความทรงจำ Apple ยังได้ปรับปรุงระบบการจดจำใบหน้าให้แม่นยำมากขึ้น และนำมาใช้ร่วมกับการแสดงความทรงจำ และการค้นหาต่าง ๆ

5. Maps แผนที่ปรับปรุงใหม่



  • เปิดกว้างให้นักพัฒนาสามารถทำแอปใช้งานกับ Maps ได้มากขึ้น เช่น พัฒนาให้เรียกแอปแท็กซี่ UberX จากสถานที่ที่ค้นหาได้เลยผ่านตัวแอป Maps
  • ค้นหาสถานที่ได้ดีกว่าเดิม
  • ปรับปรุงการแสดงผลของระบบนำทาง
  • Maps สามารถแนะนำสถานที่ใกล้เคียงได้ดีขึ้น และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มเมนู Ride สำหรับเรียกรถแท็กซี่ได้ด้วย


6. Apple Music ออกแบบใหม่หมด


ปรับปรุง UI ใหม่ สะอาดและดูง่ายกว่าเดิม
มีแถบแยกเพลงที่ดาวน์โหลดเสร็จแล้ว
เพิ่มเนื้อเพลง 

7.News ที่แจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว


Apple News (แอปพลิเคชันอ่านข่าว) ทำดีไซน์ใหม่และคุยว่าตอนนี้มีคนติดตามกว่า 60 ล้านคน แต่น่าเสียดายที่เนื้อหาภาษาไทยยังไม่ค่อยเยอะเท่าที่ควร

8. HomeKit พร้อมแอพใหม่ชื่อ Home


HomeKit ระบบจัดการอุปกรณ์ IOT ในบ้าน
เพิ่มแอป Home สำหรับ iOS
แอปโฮมใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านได้ เช่น หลอดไฟ, เครื่องปรับอากาศ, ประตูโรงรถ ฯลฯ
ตั้งโหมดได้ เช่น โหมดกลางคืน เลือกได้ว่าจะให้หลอดไฟหลอดไหนติดบ้าง, โหมดเข้านอนจะปิดม่านตรงไหน เปิดไฟห้องไหนไว้ทำได้หมด
เพิ่มอุปกรณ์ที่ใช้งานกับ HomeKit มากขึ้น


9. Phone รวมทุกสายไว้ที่แอพเดียว


เราสามารถรับสายจากแอพ VoIP เช่น LINE, Facebook Messenger, Whatsapp และอื่น ๆ ในแอพ Phone ได้ทันทีโดยเราไม่ต้องเข้าไปในแอพเพื่อรับสายอีก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการใช้งาน Voice Mail ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะในบางประเทศเริ่มมีการสแปมผ่าน voice mail โดยตอนนี้ iOS จะสามารถแจ้งเตือนได้ว่า Voice Mail ดังกล่าวเป็นสแปมหรือเปล่า แล้วยังมีระบบแปลง voice mail มาอยู่ในรูปตัวอักษรให้เราอ่านก่อนได้

10. iMessage ยกเครื่องใหม่หมด


  • ปรับปรุงใหญ่สำหรับระบบส่งข้อความ
  • ส่งสติกเกอร์ได้
  • รองรับ Digital Touch
  • ส่งเพลงจาก Apple Music ได้
  • รองรับกับการใช้งานร่วมกับแอปจาก App Store ดาวน์โหลดแอปสำหรับใช้กับ iMessage ได้
  • ข้อความสามารถเลือก emoji มาสลับได้

ฟีเจอร์อื่น ๆ 

  1. วอลเปเปอร์ใหม่ หน้าจอล็อคสกรีนใหม่ปัดด้านซ้ายเพื่อดู Widget และปัดด้านขวาเพื่อเปิดกล้องถ่ายรูปได้
  2. โฟลเดอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อยและเอฟเฟกต์เปลี่ยน
  3. ตัวหนังสือหนาขึ้น อ่านง่ายขึ้น
  4. ยกเครื่องเพื่อเปิดจอ คว่ำจอก็จะดับ ใช้ได้กับ 6s, 6s Plus, SE
  5. โฆษณาแอปใน App Store
  6. ปุ่ม Back ปรับเปลี่ยนไป
  7. Siri เปลี่ยนมาอยู่ใต้การตั้งค่า
  8. Siri ฉลาดขึ้นสามารถตอบคำถามต่อเนื่องจากประโยคคำถามก่อนหน้าได้ และเสียง(อังกฤษ)ของ Siri ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  9. iCloud Drive แสดงเนื้อหาไฟล์ที่ซิงก์กับเครื่อง Mac
  10. แชร์โน้ตจากแอป Notes ให้เพื่อนๆ ได้ ผ่านเบอร์โทรหรือ Apple ID และแก้ไขร่วมกันได้
  11. facetime เชื่อมต่อได้เร็วขึ้น
  12. เพิ่มรูปแบบหน้าจอของ Apple Watch ใหม่มากขึ้น (ต้องอัปเดต Apple Watch เป็น watchOS 3.0)
  13. การตั้งค่าอีเมล, รายชื่อและปฏิทินนั้นแยกเมนูกันชัดเจน อยู่ภายใต้เมนู Settings (การตั้งค่า)
  14. รองรับ Apple Pay จ่ายผ่าน Safari ได้
  15. ปรับหน้าตาของรายชื่อใหม่ ในหน้าเบอร์โทร
  16. วีดีโอปรับตั้งค่าคุณภาพได้และเลือกได้ว่าจะให้เล่นผ่านเซลลูลาร์หรือไม่
  17. ปรับหน้าตาใหม่ของ Control Center
  18. เปลี่ยนชื่อ AirPlay Mirroring เป็น AirPlay Screen สำหรับส่งภาพและเสียงบน iPhone, iPad ไปยัง Apple TV หรือ Mac (ต้องติดตั้งแอปเพิ่มที่ Mac)
  19. 3D Touch เพิ่มเมนูเยอะขึ้น เช่น ไฟฉายปรับระดับความสว่างได้, คัดเลือกค่าจากเครื่องคิดเลขได้, กล้องถ่ายรูปเลือกเมนูการถ่ายได้
  20. Widget และ Notification จะแยกคนละหน้า
  21. ออกแบบ Widget แบบใหม่ดูดีกว่าเดิม
  22. Widget ใช้งานร่วมกับ 3D Touch ได้
  23. เพิ่ม  Widget ใหม่ๆ ได้
  24. Spotlight เก็บประวัติการค้นหา
  25. การตอบเร็วบน Notification นั้นปรับปรุงให้น่าใช้งานกว่าเดิม
  26. Safari เปิดแท็บหน้าเว็บได้อย่างไม่จำกัด
  27. Safari เพิ่ม Split View ได้ (เปิด 2 หน้าเว็บพร้อมกันในหน้าจอเดียว) ใช้ได้กับ iPad
  28. หน้าต่างการส่งไฟล์มัลติมีเดียร์แบบใหม่ใน iMessage, ถ่ายภาพ live view ไปยัง iMessage ได้
  29. แต่งภาพ ใส่ลายเซนต์ ใส่ markup ในภาพก่อนส่งใน iMessage ได้
  30. ส่งลิงก์วีดีโอจาก youtube ใน imessage สามารถเปิดดูได้ในนั้นเลย
  31. ส่งลิงก์เว็บผ่าน imessage ก็สามารถแสดงพรีวิวของลิงก์นั้นๆ ได้
  32. ส่ง Digital Touch ได้ (วาดรูปแล้วจะถูกส่งไปให้คนรับ) ภาพที่แสดงนั้นเป็นแบบกำลังวาด ไม่ใช่ส่งภาพที่เสร็จแล้วไป
  33. Digital Touch ใช้ได้กับรูปและวีดีโอ แต่งหรือวาดทับก่อนส่งได้
  34. ส่งข้อความไปพร้อมกับลูกเล่นได้ เช่น การทุบ, การซ่อนข้อความ เป็นต้น
  35. ส่งข้อความไปพร้อมใส่เอฟเฟกพื้นหลังได้ เช่น พลุหรือไฟดิสโก้
  36. App Store สำหรับ iMessage เช่นโหลดสติกเกอร์เพิ่มและอื่นๆ ส่งผ่านทาง iMessage ได้
  37. เลือกอีโมจิแทนคำที่กำลังพิมพ์ได้
  38. แสดงสถานะอ่านแล้วได้เป็นรายบุคคลและสามารถโต้ตอบทันทีกับข้อความที่รับหรือส่งได้ (ประหนึ่งการ Like โพส)
  39. คีย์บอร์ดคาดเดาคำที่เราต้องการพิมพ์ได้มากและยาวขึ้น
  40. เสียงปุ่มกดคีย์บอร์ดแบบใหม่ มีหลายเสียง
  41. คีย์บอร์ดเดาภาษาที่เรากำลังพิมพ์ได้เช่น หากเรากำลังสนทนาภาษาอังกฤษปนสเปน ตัวคีย์บอร์ดจะเดาคำภาษาสเปนให้เราเพิ่มด้วย ทำให้การพิมพ์นั้นง่ายและเร็วขึ้น(สำหรับคนที่สนทนาแบบหลายภาษา)
  42. ปฎิทินสามารถแนะนำเวลาที่คุณควรจะออกเดินทาง(จากบ้าน) ได้ โดย จะดูข้อมูลของสถานที่บวกกับสภาพการจราจร เช่น ตั้งใจออกจากบ้านตอน 5 โมงเย็นเพื่อไปงานแต่ง แต่ปฏิทินอาจจะแนะนำว่าให้ออกบ้านเร็วกว่านั้นเพราะสภาพการจราจรติดขัด เป็นต้น
  43. หากมีอีเมลหรือข้อความส่งมาให้เข้าร่วมงานหรือไปกิจกรรมต่างๆ ตัวปฏิทินสามารถแนะนำให้เพิ่มเข้ามาในระบบอย่างง่ายดาย
  44. อ่านอีเมลแบบโต้กลับไปมาได้ง่ายมากขึ้น
  45. ฟิลเตอร์อีเมลได้ เช่น เมลที่ยังไม่ได้อ่าน
  46. พิมพ์อีเมลแบบ 2 ฉบับดูไปพร้อมๆ กันได้ (iPad)
  47. คอลัมน์ในกล่องอีเมล สามารถซ่อนแถบของโฟลเดอร์ได้ (iPad)
  48. หากต้องการย้ายอีเมล ระบบจะแนะนำว่าควรย้ายไปที่โฟลเดอร์ไหน
  49. ข้อมูลอีเมลล่าสุดจะอยู่บนสุด
  50. ยกเลิกจดหมายข่าวจากอีเมลที่ได้รับได้ ถ้าเมลนั้นส่งมาจากระบบจดหมายข่าวเรากดยกเลิกได้เลย
  51. แอป Clock เปลี่ยนธีมสีขาวเป็นสีดำ
  52. เพิ่มฟีเจอร์แนะนำการเข้านอน Bedtime Wake Alarm
  53. ออกแบบหน้าปัดนาฬิกาจับเวลาของ chronograph stopwatch ใหม่
  54. ใช้ 3D Touch เลือกเวลานับถอยหลังใน Control Center ได้
  55. เพิ่มแอป Home สำหรับจัดการอุปกรณ์ Homekit
  56. ปรับปรุงแอป Health ใหม่พร้อมวิดีโอแนะนำการใช้งาน
  57. แอป Activity สามารถแชร์กิจกรรมที่ทำได้ เช่น แชร์ข้อมูลการวิ่ง
  58. App Store ตัดแท็บ Explore ออกและแทนที่ด้วย Categories
  59. Music ใช้ฟีเจอร์ Split View บน iPad
  60. ดาวน์โหลดเพลงแบบอัตโนมัติในแอป Music
  61. จัดการการดาวน์โหลดเพลงได้ง่ายขึ้น
  62. กำหนดเนื้อที่สำหรับดาวน์โหลดเพลงจาก Music ได้ เช่น 1GB, 5GB
  63. ปรับปรุงหน้าตาของแอป Music ใหม่ดูง่ายกว่าเดิม และระบบค้นหาเพลงแบบใหม่ที่มาพร้อมกับ Trending
  64. แอป Photos ค้นหารูปถ่ายโดยค้นจากชื่อคนหรือสิ่งอื่นๆ ได้ เช่น Car, Mountain, House, Room
  65. เพิ่มแท็บ Memories สำหรับ Photos สร้างวิดีโอพรีเซนต์จากรูปถ่ายของเราได้
  66. Photos app search enhancements
  67. ปรับแต่ง Live Photos ได้
  68. ใส่ฟิลเตอร์ให้ Live Photos ได้
  69. ทำเครื่องหมายหรือ Markup รูปที่เราถ่ายได้ (ย้อนกลับไปต้นฉบับก็ได้)
  70. ระบบ Auto Enhance ของ Photos ทำงานได้ดีขึ้น
  71. ระบบปรับสี แสงของภาพ ทำได้ดีขึ้น
  72. แอป News ปรับไอคอนและ UI ใหม่
  73. เรียงลำดับเรื่องที่ชอบในแอป News ได้
  74. Maps ปรับดีไซน์ใหม่เพิ่มรายละเอียดเยอะขึ้น
  75. ระบบ Navigation ทำงานได้ดีขึ้นและแสดงภาพ Overview ของการเดินทางทุกครั้งที่เลี้ยว
  76. แสดงตำแหน่งที่จอดรถล่าสุด (หากใช้งานร่วมกับ CarPlay)
  77. Maps เพิ่มเมนู Ride สำหรับเรียกรถแท็กซี่ได้ เช่น UberX
  78. Maps ค้นหาสถานที่และสามารถจอง(ร้านอาหาร) ผ่านแอปได้เลย
  79. เพิ่มแอป Swift Playgrounds สำหรับเอาไว้สอนให้คนหัดเขียนโปรแกรมภาษา Swift
  80. ในการตั้งค่าการช่วยเหลือ มีโหมดปรับฟิลเตอร์สีจอสำหรับผู้พิการทางสายตาได้
  81. 3D Touch ที่ไอคอน Settings สามารถเลือกปิดข้อมูลเซลลูลาร์ได้
  82. 3D Touch ยกเลิกการดาวน์โหลดแอปได้
  83. 3D Touch แชร์ลิงก์ดาวน์โหลดแอปจากไอคอนแอปที่ติดตั้งลง iPhone แล้ว ส่งไปให้เพื่อนๆ ได้
  84. เปลี่ยนการแสดงผลอุณหภูมิ (C/F) ได้ในเมนู Language & Region
  85. iOS 10 แจ้งเตือน Disconnect Lightning Accessory เมื่อพอร์ตชาร์จเครื่อง iPhone มีความชื้น
  86. iOS 10 สามารถลบแอปของ Apple ที่ติดมากับ iOS เครื่องได้แล้ว และสามารถติดตั้งกลับได้
  87. เปิดกล้องถ่ายรูปได้อย่างรวดเร็ว โดยการสไลด์หน้า Lock screen ไปด้านซ้าย (Swipe Left)

อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 10 มีดังนี้

  • iPhone: iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s, iPhone SE, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s, iPhone 6s Plus
  • iPad: iPad 4th generation, iPad Air, iPad Air 2, iPad Pro, iPad mini 2, iPad mini 3, iPad mini 4
  • iPod touch 6th generation

ที่มา iphonemod,macthai

Sponsored Links

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.