ทำความรู้จักกับ AirPods หูฟังไร้สายสุดพรีเมี่ยมจาก Apple กับเรื่องน่ารู้ก่อนซื้อ
Advertising
Apple AirPods กับสิ่งที่ควรรู้
AirPods ไม่ได้ถือเป็นปรากฎการณ์แปลกใหม่อะไรครับ เนื่องจากก่อนหน้านี้ Apple ก็เคยทำหูฟังแบบ Bluetooth มาแล้วครั้งนึง สมัยเมื่อหลายปีก่อนมาแล้ว โดยใช้ชื่อว่า iPhone Bluetooth Headset ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับหูฟังบลูทูธทั่วไป แต่สำหรับ AirPods จะมีอะไรพิเศษเพิ่มขึ้นมา ตามมาดูกันครับ
- AirPods หูฟังไร้สายใหม่อย่างเป็นทางการของ Apple ที่ออกแบบมาให้ใช้สำหรับทั้ง iPhone และ Apple Watch
- ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 6,900 บาทไทย (อ้างอิงข้อมูลจากหน้าเว็บของ Apple)
- ไม่ได้แถม ถ้าเราซื้อ iPhone 7 เราจะได้แถมหูฟังแบบมีสาย แต่เป็นพอร์ท Ligntning แบบเดียวกับสายชาร์จ iPhone ปกติแทน
- AirPods เชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth
- AirPods มาพร้อมกับชิพชื่อ W1 ซึ่งเป็นสมองของ AirPods และทำให้ AirPods มีความสามารถพิเศษต่างจากหูฟังไร้สายธรรมดา แค่เชื่อมต่อ AirPods กับ iPhone ง่ายขึ้น โดยชิพ W1 จะทำให้ AirPods ควบคุมพลังงาน ใช้ได้ยาวนานกว่า พร้อมตรวจจับว่าเราใส่ AirPods กับหูเราหรือยัง ทำให้เล่น และหยุดเพลงได้อย่างเหมาะสม และสามารถแจ้ง iPhone เมื่อพวกเราใส่ AirPods ข้างเดียวได้
- ชิพ W1 ไม่ได้มีบน AirPods เท่านั้น แต่ยังมีบนอุปกรณ์อื่นๆของ Beats ด้วย เช่น
- AirPods มี Sensor เซ็นเซอร์อินฟราเรด ที่ตรวจจับการสวมใส่ และ Accelerometer ที่ตรวจจับการเคาะ
- AirPods มากับกล่องเคสแม่เหล็กที่คอยชารจ์ไฟให้ AirPods ที่พวกเราพกออกไปนอกบ้านได้ โดยเราสามารถชาร์จไฟให้กับกล่องเคสที่ว่านี้ผ่านสายชาร์จธรรมดาได้อีกต่อหนึ่ง
- แบตเตอรี่ AirPods จะใช้ฟังเพลงได้ประมาณ 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยถ้าชาร์จไฟจากกล่องเคสเป็นระยะ ก็สามารถอยู่ได้ถึง 24 ชั่วโมง
- สามารถใช้ AirPods กับ Mac หรือ Apple Watch ได้ แต่ Mac ต้องรันระบบปฏิบัติการ macOS Sierra และ Apple Watch ต้องรันระบบ watchOS 3
- AirPods จะทำงานกับ iPhone ทุกรุ่นที่สามารถรันระบบปฏิบัติการ iOS 10 ได้
- AirPods ใช้กับมือถือ Android ได้ ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Bluetooth ทุกแบบ เพียงแค่กดปุ่มด้านหลังของกล่องเคส AirPods
- ถ้าทำ AirPods หายไปข้างหนึ่ง Apple ระบุว่า ไม่ต้องซื้อใหม่เป็นคู่ ซื้อแยกข้างที่หายไปได้
- คุณภาพเสียงของ AirPods ใกล้เคียงกับ EarPods ที่มีสายเดิมของ Apple
- AirPods กันน้ำไม่ได้ แต่จะใช้มันจะหว่างเดินฝ่าฝนกลางๆ หรือเหงื่อแตกพลั่กในฟิตเนส
- ใช้ AirPods คุยโทรศัพท์ได้ โดย AirPods แต่ละข้างมีไมโครโฟนที่ใช้ในการคุยโทรศัพท์ และพูดกับ Siri ได้
- ใช้ AirPods สั่งงาน หรือคุยกับ Siri ได้ แตะเบาๆ 2 ครั้งที่ AirPods และสามารถปรับการแตะ 2 ครั้งเป็นแบบอื่นได้
- จะปรับระดับเสียง หรือเปลี่ยนเพลงที่ฟังอยู่ มี 2 วิธี คือ เคาะ 2 ครั้งเพื่อหยุดเพลง, คุยกับสิริบอกให้เร่งเสียงให้ หรือใช้ปุ่มปรับเสียงบน iPhone หรือปรับจากหน้าจอ iPhone ตามปกติ
- รับสายด้วย AirPods เพียงแค่แตะ 1 ครั้งบนข้างใดข้างหนึ่งก็คือการรับสาย
- มันหลุด หรือร่วงจากหูเราไม่ง่ายอย่างที่เราคิด ใส่แล้วเกาะหูแน่นพอตัว แต่คงต้องรอรีวิวตอนวิ่ง หรือออกกำลังกายในฟิตเนสอีกที ถ้า AirPods แบตเสื่อมหรือหาย Apple คิดเงินค่าบริการเริ่มต้นที่ข้างละ $49 (ประมาณ 1,750 บาท) ถึงแม้ว่าการออกแบบมาให้เกาะหูแน่น แต่ก็ควรใช้งานอย่างระมัดระวังกันหน่อยนะครับ
- สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone /iPad ที่สามารถรันระบบปฏิบัติการ iOS 10
- iPhone 5
- iPhone 5c
- iPhone 5s
- iPhone SE
- iPhone 6
- iPhone 6 Plus
- iPhone 6s
- iPhone 6s Plus
- iPhone 7
- iPhone 7 Plus
- iPad mini 2
- iPad Air
- iPad Air 2
- iPad mini 3
- iPad mini 4
- iPad Pro (รุ่น 9.7 นิ้ว)
- iPad Pro (รุ่น 12.9 นิ้ว)
- iPod touch รุ่นที่ 6
Sponsored Links
ไม่มีความคิดเห็น: