ไขข้อข้องใจ! ปิดแอพที่ค้างไว้ช่วยประหยัดแบตได้จริงหรือ?
Advertising
เหตุผลที่ว่าทำไมการปิดแอพไม่ได้ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่เลยนั้นเป็นเพราะว่าแอพที่เราเห็นเปิดเรียงรายอยู่นั้น จริงๆแล้วไม่ได้ทำงานอยู่เลย เพียงแค่ว่าแอพเหล่านี้ถูกหยุดการทำงานไว้แล้วก็เก็บสถานะการทำงานตอนเราออกจากแอพไว้ เมื่อเรามาเปิดใหม่ ตัวระบบก็จะโหลดข้อมูลว่าเราเปิดค้างไว้ตรงหน้าไหนมาครับ พูดง่ายๆ ก็คือแอพเหล่านี้ถูกหยุดการทำงานไว้หมด ไม่ได้ทำงานในเบื้องหลังแต่อย่างใด (ถึงแม้ว่าเปิดเครื่องแล้วปิดใหม่ แอพเหล่านี้ก็ยังคงอยู่) รูปที่เราเห็นเป็นเพียงแค่รูปที่โดนถ่ายไว้ตอนปิดแอพเท่านั้น
ระบบแบบนี้มีข้อดีคือป้องกันไม่ให้แบตไหลโดยไม่รู้ตัว แต่ก็จะไม่สามารถเปิดแอพทิ้งไว้ให้โหลดอะไรไว้ได้เช่นกัน ต่างจากแอนดรอยด์ที่เปิดให้แอพทำงานได้ตอนเราปิดไปแล้วโดยอิสระ ทำให้สามารถเปิดโหลดอะไรไว้ได้ แต่ก็แลกมาด้วยการกินแบตที่มากขึ้นนั่นเอง (แต่แอนดรอยก็มีระบบจัดการพลังงานที่คอยมาเปิดปิดแอพเหล่านั้นเช่นกัน) ดังนั้นสำหรับ iPhone แล้ว การปิดแอพที่เปิดค้างไว้ช่วยได้เพียงแค่ว่าทำให้หน้าจอไม่รกแล้วทำให้เราหาแอพที่เปิดค้างไว้ง่ายขึ้นนั่นเอง
นอกจากวิธีประหยัดแบตที่สุดแสนจะคลาสสิคไม่ว่าจะเป็นการปิด GPS หรือว่าปิด 3G 4G wifi นั้น เรามีอีกวิธีนึงนั่นก็คือการปิด Background App Refresh ซึ่งก็คือการปิดแอพที่ทำงานอยู่เบื้องหลังจริงๆ นั้นเอง โดยฟังก์ชั่นนี้คือเราจะยอมให้แอพอัพเดทเนื้อหาตอนเราปิดแอพอยู่หรือเปล่า (นึกถึง notification ของ Messenger ที่เด้งระหว่างเราไม่ได้เปิดแอพนั่นแหละ) วิธีก็คือเราปิดให้หมดยกเว้นแอพแชตกับแอพพวก social network ครับ เพราะว่าแอพอย่าง note ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องโหลดข้อมูลอะไรเมื่อเราเปิดเน็ททิ้งไว้ใช่มั้ยล่ะ ถ้าเราปิดของแอพแชตไปเราก็จะสามารถใช้งานแอพได้นะ เพียงแค่ถ้าเราไม่ได้เปิดแอพอยู่เวลามีคนส่งอะไรมามันก็จะไม่เด้งเท่านั้นเอง

Sponsored Links
ไม่มีความคิดเห็น: