สรุปงาน Apple WWDC 2015 มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกัน
Advertising
- OS X EL CAPITAN
Apple ได้เปิดตัว OS X 10.11 ให้แก่นักพัฒนา ซึ่งจะใช้โค๊ดเนมที่ชื่อว่า El Capitan นั่นเองครับ โดยในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นการพัฒนาเพื่อประสบการณ์ของผู้ใช้งานและเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์นิดๆหน่อยๆ เช่น เพิ่มในส่วนของการ ‘pin’ เว็บต่างๆ ใน Safari และสามารถเปิดปิดเสียงจากบางแท็บได้ในทันที รวมไปถึง Spotlight ที่จะสามารถทำให้คุณสามารถค้นหาสิ่งต่างๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศหรือผลการแข่งขันกีฬาทีมโปรด และเค้ายังบอกอีกว่ามันจะเข้าใจภาษาที่เราพูดได้ดียิ่งขึ้นด้วยนะ ซึ่ง OS X El Capitan จะใช้ “Metal” เพื่อประมวลผลกราฟฟิกต่างๆ ทำให้มีความสวยงาม รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- iOS 9
iOS 9 รอบนี้จะเป็นการลดขนาดพื้นที่ให้เหลือน้อยมากที่สุดด้วยการจัดการกับไฟล์ขยะต่างๆ โดยจะใช้พื้นที่ในโทรศัพท์เราน้อยมาก และแก้ bugs รวมไปถึงพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็มีฟังก์ชั่นบางตัวเพิ่มขึ้นมาเช่นการวาดรูปใน Notes, การเปลี่ยนจาก Passbook เป็น Wallet, การเปลี่ยนจาก Newsstand เป็น News และมาพร้อมกับโหมดประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น
นอกจากบน iPad สามารถเปิดแอพพร้อมกันถึง 2 หน้าต่างได้อีกด้วย ซึ่ง iOS 9 น่าจะเปิดให้คนทั่วไปได้ใช้งานกันพร้อมกับการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่เดือนกันยายนนี้
-ปรับปรุง SIRI
ด้วย Proactive จะทำให้ Siri เก่งมากขึ้น สามารถเดาถึงสิ่งที่เราต้องการในขณะนั้นๆ มากขึ้นจากข้อมูลในขณะนั้น เช่น สามารถสแกนอีเมล์เพื่อลงตารางนัดหมายหรือตารางการเดินทางเพื่อแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ, การเลือกเพลงให้เราฟังตอนเช้าๆ, แสดงรายชื่อที่คุณอยากติดต่อทันทีหรือแนะนำแอพฯ ที่คุณใช้ในช่วงเวลานั้นบ่อยๆ
APPLE PAY ไปยังประเทศอังกฤษเป็นที่แรกของยุโรป
Apple Pay เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว โดยเปิดใช้เพียงแค่สหรัฐอเมริกา ซึ่งในปีนี้ Apple ได้ประกาศร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ เช่น Trader Joe’s และ JC Penney และ Apple ยังประกาศว่าได้ร่วมมือกับ 8 ธนาคารและร้านค้าต่างๆ มากมายในประเทศอังกฤษ ดังนั้นที่ประเทศอังกฤษจึงสามารถใช้งาน Apple Pay นอกสหรัฐฯ เป็นที่แรกครับ โดยผู้ใช้งานสามารถใช้กับระบบการขนส่งใน London ได้แล้ว ซึ่ง Apple ได้เปลี่ยนชื่อ Passbook service เป็ย Wallet และ Apple Pay ยังมีส่วนเสริมที่สามารถใช้สมาชิกหรือบัตรสะสมแต้มได้อีกด้วย
Apple watch OS 2
หลังจากที่ปล่อย Apple Watch OS 1.0.1 ไปแล้ว ซึ่งก็ได้มีการปรับปรุง Siri รองรับภาษามากขึ้นกว่าเดิม และในงานนี้ Apple ก็ได้เปิดตัว watch OS 2 ซึ่งจะย้ายการประมวลผลไปอยู่ยนตัวนาฬิกา และมีฟีเจอร์ “Time Travel” ซึ่งจะใช้เม็ดมะยมหมุนเพื่อดูกิจกรรมต่างๆที่ใกล้เข้ามา และยังสามารถพูดตอบโต้อีเมล์ได้อย่างทันที
นอกจากนี้ นักพัฒนาก็สามารถเขียนแอพฯ เพื่อควบคุมส่วนต่างๆ ของตัวนาฬิกาได้หมดทุกส่วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเม็ดมะยมและเซนเซอร์ภายในต่างๆ ซึ่งมันยังสามารถใช้งาน HealthKit และ HomeKit ได้อีกด้วย
"One more thing" Apple Music
เป็นเอกลักษณ์ทุกครั้งครับที่จะต้องมีช่วง "One more thing" ก่อนที่จะปิดงาน ซึ่งรอบนี้ก็เป็นการเปิดตัว Apple Music หากใครนึกไม่ออกว่าคืออะไรนั้นลักษณะการทำงานเหมือนกับ KKBOX ครับ เป็นบริการฟังเพลงออนไลน์ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงจากทั่วโลก พร้อมรองรับการใช้งานทั้งบน PC และ Android เปิดให้บริการ 30 มิถุนายนนี้ครับ ส่วนค่าบริการนั้นอยู่ที่ เดือนละ 9.99 เหรียญฟังได้ทั้ง iTunes, รองรับPC และ Android
ที่มา : Apple Live
Sponsored Links
ไม่มีความคิดเห็น: