Ads Top

เปรียบเทียบ iPad Mini with Retina Display vs.Galaxy Tab S 8.4


Advertising
เมื่อมีสินค้าใหม่ๆ เปิดตัว แน่นอนว่าจะต้องถูกนำมาเปรียบเทียบกับคู่แข่งอีกค่าย  และที่ผมกำลังจะนำมาเปรียบเทียบวันนี้ก็คือ iPad Mini with Retina Display vs. Galaxy Tab S 8.4 หากใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตระดับกลางๆ ต้องลองเปรียบเทียบกันดูก่อนครับ ว่าตัวไหนน่าจะเหมาะต่อการใช้งานเราได้มากที่สุด



Samsung เพิ่งเปิดตัวแท็บเล็ตใหม่มีนามว่า  Galaxy Tab S 8.4 ตัวนี้ถ้าเปรียบกับทางคู่แข่งอย่าง Apple ก็จะเป็น  iPad Mini  และอีกรุ่นใหญ่หน่อย Galaxy Tab S 10.5 เพื่อต่อกรกับ iPad Air นั่นเอง

เอาละ ผมไม่ได้เอามาเปรียบเทียบทั้งคู่หรอกครับ ขอเปรียบเทียบเป็นรุ่นเล็ก น่าจะเป็นที่นิยมกันมากกว่ารุ่นใหญ่

ขนาดและการออกแบบ


Galaxy Tab S  เป็นแท็บเล็ตขนาดพกพาสะดวก มันบางและเบามาก มีนำ้หนัก  294G เอง และมีขนาดหน้าจอใหญ่ 8.4 นิ้ว เมื่อเทียบ iPad mini ที่มีหน้าจอ 7.9 นิ้ว และมีน้ำหนัก 331G


iPad Mini with Retina display  จะเป็นลักษณะเดียวกัน แต่ iPad Mini จะมีขนาดที่เล็กกว่า การออกแบบด้วยโลหะและกระจอทำให้มีความมันวาวดูสวยกว่า

iPad mini ที่ใช้อัตราส่วน 4:3 ของหน้าจอ ขนาด 7.9 x 5.3 x 0.29 inches แต่ดูเหมือนว่า Galaxy Tab S 8.4 จะรูปร่างเรียวกว่า โดยมีขนาด 8.4 × 4.9 × 0.26-inch

คะแนนโดยรวมเทไปให้ iPad Mini with Retina Display

คุณภาพของการแสดงผล


Galaxy Tab S  มีขนาดหน้าจอ Super AMOLED  8.4 ซึ่งจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า iPad mini  อยู่แล้วที่มีหน้าจอ 7.9 นิ้ว ทำให้มีความละเอียดที่สูง 2560 x 1600 Pixel (359ppi) เมื่อเทียบกับ iPad แค่ 2048 × 1536  Pixel (326ppi) เอง หากดูภาพ วีดีโอ หรือเปิดเว็บไซด์ละก็ Tab S จะมีความคมชัดมากกว่า iPad ที่เดียวเชียว

นอกจากความคมชัดแล้ว Tab S  จะแสดงแสดงสีสันสดใสมาก สีสดและละเอียดยิบๆ ไปเลย


แต่ก็ยังมีแต่อีก หากมองดูภาพวิวมันเหมือนจะดูเว่อร์เกินไปแต่เมื่อมองจาก iPad มันจะสมจริงมากกว่า อันนี้แล้วแต่มุมมองของแต่ละบุคคล 555

คะแนนข้อนี้ต้องยกให้ Samsung Galaxy Tab S 8.4

Software and apps


Galaxy Tab S 8.4 ที่รันบน Android KitKat ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของ Android  ครอบทับด้วย TouchWiz UI (Vibrant UX) หน้าตาออกแบบมาดูสวยดี ออกแนวคล้ายๆ Galaxy S5  หน้าโฮมทางซ้ายจะเพิ่มในส่วนของการจัดการไฟล์ เข้าถึงง่ายขึ้นกว่าเดิม ทางขวาจะเป็น App Drawer และหน้า Lock Sceen ด้านล่างจะมีแถบแสดงข่าวสารจากหน้า My Magazine มาแสดงอัพเดตข่าวล่าสุด


การจัดวางหน้าจอและแอพแบบนี้ก็อาจจะทำให้ดูเหมือน Galaxy Tab S 8.4 ดูรกๆไปหน่อย ในขณะที่ iPad mini with Retina display รันบน iOS 7  ซึ่งจะรู้สึกว่าลื่นกว่า TouchWiz การจัดวางแอพก็ดูเหมาะสม ทำให้  iPad mini’s Retina display ดูสะอาดตาและพอดีกับหน้าจอ

คะแนนข้อนี้ต้องยกให้ iPad mini with Retina display 

Performance

ทั้ง  Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ iPad mini with Retina display มีประสิทธิภาพที่ดูดีทั้งคู่ เปิดแอพต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

Samsung Galaxy Tab S 8.4  เลือกใช้ CPU 2 รุ่นในการวางจำหน่าย ได้แก่ CPU Quad-Core Snapdragon 800 ความเร็ว 2.3 GHz สำหรับรุ่นรองรับการใช้งาน 4G LTE CPU Octa-Core Exynos 5 (Quad-core 1.3GHz Cortex-A7 + Quad-core 1.9GHz Cortex-A15) สำหรับรุ่น WiFi Only และแรม RAM 3 GB

ส่วน  iPad mini with Retina display เลือกใช้ CPU Dual-Core A7 64 Bit ความเร็ว 1 GHz และชิพประมวลผล Motion m7 และแรมเพียง RAM 1 GB 

หน่วยความจำภายในของทั้ง 2 รุ่นจะเริ่มต้นที่ 16GB เมื่อเก็บรูปหรือวีดีโอ เพลงใกล้เต็มแล้ว ในส่วนของ Tab S 8.4 จะมีช่อง microSD เพิ่มได้สูงสุด 128GB ในขณะที่ iPad mini ก็รองรับถึง 128GB เหมือนกันนะครับ แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อรุ่นที่ 128GB ไปเลย 555 เพราะมันไม่สามารถเพิ่มได้นั่นเอง ก่อนซื้อต้องดูความจำเป็นให้ดีๆ หรือจะหันไปใช้บริการคลาวด์สตอเรจอีกทางก็ได้


คะแนนของข้อนี้ให้เสมอกัน

Cameras


Samsung Galaxy Tab S 8.4 มีกล้องหลังที่ 8 ล้านพิกเซล เมื่อเทียบกับ iPad Mini ที่มีกล้องหลังแค่ 5 ล้านพิกเซล ซึ่ง Tab S 8.4  มี LED flash มาให้ด้วย และก็บันทึกวีดีโอ full-HD video 30fps ด้วยกันทั้ง 2 รุ่น แต่จำนวนพิกเซลที่สูงกว่าก็ไม่ได้หมายว่าคุณภาพของภาพจะดีกว่ากล้องที่มีจำนวนพิกเซลน้อย



ในส่วนของกล้องหน้าสำหรับวีดีโอคอลหรือจะ selfies หน้าตัวเองนั้น Tab S 8.4  มีความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล อาจจะดูดีกว่า iPad Mini 2 เล็กน้อยที่มีแค่ 1.2 ล้านพิกเซล (iSight camera)


ถ้าหากต้องการเลือกแท็บเล็ตที่ไว้  selfies หน้าตัวเอง กล้องหน้าของ iPad Mini 2 จะดูสมจริงมากกว่า

คะแนนข้อนี้ต้องยกให้ iPad mini with Retina display 

Special features

ในข้อนี้คงมองกันออกใช่ไหมล่ะ แน่นอนว่า Galaxy Tab S 8.4 จะมีแอพพลิเคชั่นดีๆอย่าง Remote PC และ SideSync 3.0 รวมถึงฟังก์ชั่นน่าสนใจอย่าง Blocking Mode และ Private Mode ทั้งยังมี Fingerprint sensor (PayPal certified) แจ่มแจ้งไปเลยไหมล่ะ


มาพร้อมฟังก์ชั่นที่เหมาะกับการใช้งานบนแท็บเล็ตอย่าง Multi Window ช่วยให้สามารถใช้งานพร้อมๆกันหลายๆอย่างได้ในหน้าจอเดียว 

เมื่อพูดถึง SideSync 3.0  ถือว่าเป็นจุดเด่นของทาง Samsung เลยนะครับ ฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน WiFi เอาเป็นว่าไปดูรายละเอียดตามลิ้งแล้วกันครับ จะรองรับเฉพาะบางรุ่นเท่านั้นนะครับ ในแง่ของคุณสมบัติพิเศษนั้น iPad Mini 2 คงไม่อาจเทียบเท่า 

คะแนนข้อนี้ต้องยกให้ Samsung Galaxy Tab S 8.4

ราคา

Samsung Galaxy Tab S 8.4 WiFi Only ราคาประมาณ 399$ หรือประมาณ 12,xxx บาท (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงเมื่อวางจำหน่ายในไทย)
Samsung Galaxy Tab S 8.4 4G LTE ราคาประมาณ 425$ หรือประมาณ 14,xxx บาท (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงเมื่อวางจำหน่ายในไทย)

iPad Mini with Retina Display WiFi Only
16 GB ราคา 13,400 บาท
32 GB ราคา 16,900 บาท
64 GB ราคา 20,400 บาท
128 GB ราคา 23,900 บาท
iPad Mini with Retina Display Cellular 
16 GB ราคา 17,900 บาท
32 GB ราคา 21,400 บาท
64 GB ราคา 24,900 บาท
128 GB ราคา 28,400 บาท


สรุปเลยแล้วกัน

Samsung Galaxy Tab S 8.4 เป็นแท็บเล็ตที่น่าประทับใจของ Samsung ได้แก้ไขปัญหาเดิมเรื่องความลื่นไหลของแท็บเล็ตระบบ Android แถมมาพร้อมกับหน้าตาที่สวยสด อาจจะสวยกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน และทาง Samsung เองก็ได้ก็พยายามใส่ฟังก์ชั่นและแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมายใน Samsung Galaxy Tab S 8.4 เหมาะแก่การใช้งานที่หลากหลายดี แต่  iPad Mini with Retina Display ก็ยังมีดีที่ระบบปฏิบัติอย่าง iOS 7 ที่ได้รับการออกแบบให้สวยและทันสมัยมากขึ้น และเมื่อเปรียบเทียบสเปคแล้ว   iPad Mini with Retina Display ย่อมต่ำกว่าอยู่แล้ว เนื่องจากว่าออกมาก่อนนั่นเอง ซึ่งแท็บเล็ต Android ที่ออกมาใหม่ๆ จะต้องอัพสเปคให้สูงๆไว้ก่อนอยู่แล้ว อาจจะมองดูยากว่าจะเลือกรุ่นไหนดี แต่สิ่งที่น่าพิจารณาอีกอย่างก็คือเรื่องของระบบปฏิบัติการ ซึ่งมีสไตล์การใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะชอบแบบไหน ถ้ารักความอิสระ เล่นได้ทุกอย่างแบบไร้ขีดจำกัด แต่แอพปลอมเยอะต้องระวัง ก็เลือก Android  หากชอบความง่ายในการใช้งาน ระบบมีความเสถียรภาพสูง แต่ทุกอย่างถูกจำกัดด้วยอารยธรรม Apple ก็เลือก iOS ไป 

การเปรียบเทียบทั้งหมดทั้งปวงนี้ผมเอามาจากยาฮูนะครับ กระผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้ง 2 รุ่น เดียวหาว่าผมเอนเอียงไปทาง iPad Mini with Retina Display มากกว่า 555 

Sponsored Links

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.